วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

NC รักดุจหินผา_13

NC รักดุจหินผา_13



            ขณะที่ท่อนเนื้อร้อนผ่าวถูกสวมเอาไว้ด้วยห่วงรัดโคนหรือค็อกริง จนแลเห็นเส้นเลือดปูดโปนอย่างทรมานสุดขีด

            ภาพที่ทำให้คนเพิ่งกลับมาพร้อมกับอาหารวางข้าวของทั้งหมดลงบนโต๊ะ แล้วเดินมานั่งบนปลายเตียง มองคนที่สะดุ้งสุดตัวแล้วพยายามขยับหนี เพราะก่อนจะไป เขากระซิบบอกก้อนหินเอาไว้

          เดี๋ยวแม่บ้านก็คงขึ้นมาทำห้อง

            ไอ้หินกลัวจนร้องไห้ หากแต่เขาไม่พูดอะไรแล้วเดินออกไปเลย ทว่า พลิกป้ายห้ามรบกวนขึ้น เขาแค่รู้สึกว่ายิ่งได้เห็นคนสนิทถูกเหยียบย่ำมากเท่าไหร่ ใจเขามันก็บรรเทาความอึดอัดมากเท่านั้น

            เขาอยากจะเหยียบมันให้จมดิน อยากจะย่ำความเป็นคนของมัน อยากจะยัดเยียดความเจ็บปวดให้ใครสักคนได้รู้ว่าใจเขามันทุรนทุรายมากแค่ไหน และเมื่อมันเสนอมา ตุลย์ไม่คิดที่จะปฏิเสธ แม้ใจส่วนเสี้ยวหนึ่งจะบอกว่าไม่อยากทำ ไม่อยากทำร้ายคนเพียงคนเดียวที่เข้าใจเขา ทว่า ไม่ได้ ถ้าเขาไม่ทำ เขาเองนั่นแหละที่จะแหลกสลายไป

            ถ้าเขาเป็นคนเดียวที่รู้สึกว่าไร้ค่า เขาคงอยู่ไม่ได้ เขาอยากมีคนมาร่วมรับรู้ความเจ็บปวดในใจนี้ และก้อนหินตอบโจทย์ข้อนี้ได้ดี

            ตอนนี้ตุลย์อยากทำมากกว่านี้ อยากจะทรมานมันให้เจ็บปวด อยากจะให้มันร้องไห้ อยากจะให้มันร่ำร้องว่าขอโทษ อ้อนวอนขอความเมตตาจากเขา ยิ่งกว่าค่ำคืนที่ผ่านมา

            เมื่อคืนเขากับหินมีเซ็กส์รุนแรง ขนาดที่ไอ้หินถึงกับร้องออกมาว่าไม่ไหว แต่เขาไม่หยุด ต่อให้เลือดจะไหล มันจะเจ็บ หน้ามันจะช้ำ ตัวมันจะเต็มไปด้วยรอยมากมายที่ถูกฟาดจากเนคไท เขาก็ไม่ยอมหยุด ไม่ใช่ใจที่ไม่หยุด แต่ร่างกายมันขยับไปเอง ทำทุกอย่างเพื่อระบายความเจ็บปวดนี้ไปเอง

            และเมื่อคืนตอนที่มันสลบไป เขาเองนั่นแหละที่ไปหาซื้อของมากมายพวกนี้มาพันธนาการมัน

            ไม่ มันยังไม่พอ ในใจของตุลย์กำลังร่ำร้องว่าไม่พอ เขาต้องการมากกว่านี้ อยากทำมากกว่านี้ อยากจะเป็นปีศาจร้าย อยากจะโหดเหี้ยมให้ยิ่งกว่าคนที่สร้างรอยบาดแผลในใจของเขา

            ความคิดที่ทำให้เจ้าตัวลุกไปเปิดกระเป๋า ซึ่งภายในไม่ได้มีเพียงเสื้อผ้าของเขาและมัน ตามที่อ้างกับคนที่บ้านว่าต้องค้างข้างนอกอีกหลายคืน แต่ยังมีเซ็กส์ทอยอีกหลายชิ้นที่เขาล้วงมันออกมา

            ตอนนี้ในมือของหนุ่มลูกเสี้ยวคือดิลโด้ขนาดใหญ่สีดำสนิทที่เพียงกดสวิทซ์เบาๆ เสียงวี้ๆ ก็ดังขึ้น พร้อมกับส่วนใหญ่โตที่กำลังขยับวนเป็นวงกลม

            ดวงตาคู่คมมองนิ่ง แล้วขยับไปที่เตียง ทิ้งเข่าข้างหนึ่งลงบนฟูกนุ่ม ก้มลงมองคนที่กลัวจนตัวสั่น มันยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เพราะอย่างที่ว่า จะเป็นแม่บ้านที่ต้องเข้ามาทำความสะอาดห้องให้แขก หรือรปภ.ที่ถูกเรียกมาดูแขกวิปริตที่ถูกมัดเอาไว้ในห้องก็ได้

            ความกลัวที่สร้างความตื่นเต้นในหัวใจของตุลย์ จนมือใหญ่เลื่อนไปยังวัตถุที่กดสอดลึกอยู่ในช่องทางคับแคบ แล้วค่อยๆ ดึงมันออกมาจากรูบวมเป่งที่เกิดจากการร่วมรักอย่างหนักหน่วง จนคนได้รับจิกขาตัวเองเต็มแรง ส่งเสียงอื้ออึงในลำคอ

            “ฮื่อออ อื้อๆ อื้อ!!!” ก้อนหินพยายามหนี พยายามถดตัวถอยห่าง หากแต่มันติดที่ข้อมือและข้อเท้าถูกพันเอาไว้แน่น ความมืดที่ได้รับทำให้กลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา

          คุณตุลย์ นั่นคุณตุลย์ใช่มั้ย

            คำถามที่ก้องในใจคนที่หวาดกลัว ก่อนที่ปฐพีจะผวาเฮือก สะโพกเด้งขึ้น ส่งท่อนเนื้อร้อนให้แอ่นขึ้นฟ้า เมื่อ...อะไรบางอย่างกำลังสอดเข้ามาในกายของเขา

            ใหญ่ คับ แถมยังขรุขระจนน้ำตายิ่งไหลอาบแก้ม สะโพกพยายามดันหนี แต่มันก็ยังตามเข้ามา...เข้ามา..,ลึกเข้ามาในกายจนอึดอัดไปหมด

            ก้อนหินรู้แล้วว่าคนที่ทรมานเขาคือเจ้านาย แต่เขาไม่ชอบเลย...ไม่ว่าจะถูกทำรุนแรงแค่ไหน แต่นั้นคือส่วนหนึ่งของร่างกายคุณตุลย์ ไม่ว่าจะขยับเข้ามารุนแรง หรือไม่ใยดีเขา เขาก็พร้อมจะรับมันไว้ แต่เมื่อสิ่งนี้คือของเล่นที่เอาไว้ระบายออกทางเพศ แม้คนอื่นจะรู้สึกดีกับมัน แต่เขาไม่ใช่

            เขาไม่ต้องการเลยสักนิด ถึงเจ้านายจะค่อยๆ ดันมันจนเข้ามาขยี้ปุ่มอารมณ์ภายในกายเขาก็ตาม

            ก้อนหินไม่ต้องการความสุขทางกายของตัวเอง เขาต้องการความสุขทางใจว่าร่างกายนี้ช่วยปลอบประโลมคนคนนี้ได้

            แหมะ

            น้ำตาหยดแรกๆ ของเขาซึมหายไปกับผ้าปิดตา แต่เมื่อมันร้องมากเข้า สะอื้นในคอ น้ำหยดใสก็เริ่มเอ่อล้นออกมา เพราะผ้าเปียกชุ่มไม่อาจจะซึมซับได้อีกต่อไป มันไหลลงมาที่แก้ม ผ่านปลายคาง หยดลงบนหมอน ขณะที่วัตถุในกายกำลังสั่น แถมยังเสียดสีไปทั่วช่องทางของเขา

            ฟึ่บ

            จู่ๆ สายรัดที่ครอบริมฝีปากก็ถูกปลดออกไป ปล่อยให้วัตถุชิ้นเล็กที่คาบมานานนับชั่วโมงร่วงผล็อย ให้ปากช้ำทั้งสองมุมปากเป็นอิสระ และก้อนหินก็ไม่ลังเลเลยที่จะร้องเรียกหาคนเพียงคนเดียว

            “คุณตุลย์... คุณตุลย์ได้โปรด...พอแล้ว...พอแล้ว...”

            เขากระซิบเสียงแหบพร่า ยามที่รู้สึกว่าความอบอุ่นกำลังแตะเข้าที่ข้างแก้ม

            “รู้ได้ไงว่าเป็นกู”

            “ผมรู้...รู้ว่าเป็น...คุณ”

            ก้อนหินไม่รู้ว่าเขารู้ได้ยังไง แม้เจ้านายไม่ใช้น้ำหอม แต่เขาจำกลิ่นกายนี้ได้ จำความอุ่นของร่างกาย จำสัมผัสหยาบกร้านที่สัมผัสเขาอย่างรุนแรง เขาจำได้ทั้งหมด และเต็มใจยอมรับมัน เพียงแต่ว่าการทรมานครั้งนี้มันมากเกินกว่าที่ร่างกายจะรับไหว

            ชายหนุ่มถูกตรึงอยู่ท่านี้มานานนับชั่วโมง อาจจะสอง หรืออาจจะสามชั่วโมง เขาไม่รู้จริงๆ เขารู้เพียงว่า...เขาไม่ไหวแล้ว

            “ดี งั้นรู้ด้วยสินะว่ากูจะทำอะไร”

ต่อค่ะ


            เฮือก!!

          “มะ...อึ้ก..เฮือก! อย่า...คุณตุลย์...อย่า!!!!

            ก้อนหินถึงกับเบิกตากว้าง ทั้งที่เห็นเพียงความมืด เมื่อดิลโด้อันใหญ่กำลังเปิดสุดความแรง จนมันส่ายสะบัดไปมาในช่องทางคับแคบของเขา มันถู มันเสียดสี มันขยี้ลงบนปุ่มอารมณ์ หากแต่ไม่ได้ทำให้สุขสม เมื่อค็อกริงยิ่งรัดรึงท่อนเนื้อของเขาเอาไว้จนรวดร้าวไปหมด

            “ได้โปรด...คุณตุลย์ ได้โปรด...พอ...พอเถอะ...พอเถอะครับ...อ๊าา!!!

            ชายหนุ่มจิกสองขาลงบนพื้นเตียง กระชากมือตัวเองเต็มแรงจนรู้สึกเจ็บข้อมือ รู้ว่ามันต้องช้ำเลือดช้ำหนอง แต่เขาหยุดทั้งมือและขาที่กระชากกลับมาไม่ได้ เมื่อความทรมานปนสุขสมกำลังจู่โจมร่างกายของเขาไม่มีหยุด อีกทั้งคนเป็นนายยังดันของเล่นชิ้นนั้นเข้ามาลึกกว่าเดิม ลึกจนเขาจะไม่ไหวแล้ว

            แหมะๆๆๆ

            “พอ พอแล้ว...ได้โปรด คุณตุลย์ เมตตาผม...เมตตาผมด้วย...”

            ก้อนหินไม่ได้อยากร้องไห้ หากแต่เขากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ร่างกายมันกลั่นน้ำตาออกมาแทนความทรมาน ยิ่งบิดกายเร้ามากเท่าไหร่ คนเป็นนายก็ยิ่งทรมานช่องทางด้านหลังของเขามากเท่านั้น จนเสียงหอบ เสียงคราง เสียงของเล่นที่เสียดสีเข้ามาด้านในก้องไปทั่วทั้งห้อง

            น้ำตาชายหนุ่มไหลพราก แต่มัน...ยังไม่สาแก่ใจคนมอง

            “แค่นี้เองไอ้หิน มึงบอกเองว่าให้กูลงที่มึง มึงพูดเอง”

            “ผม...ผมพูด...เฮือก!!!

            คนฟังรับคำเสียงสั่น หากแต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรมากกว่านั้น ดิลโด้อันใหญ่ก็ถูกกระชากออกจากช่องทางคับแคบ โยนไปข้างเตียงจนได้ยินเสียงมันกระแทกกับพื้น หากแต่ความอึดอัดไม่ได้หายไปนาน เพราะพักเดียวเท่านั้น ลูกคนงานก็สัมผัสถึง...

            สวบ

            “อ๊าาาาาา!!!

            ท่อนเนื้อร้อนผ่าวที่สอดเข้ามาแทนที่ในรูเดิม ดันพรวดเข้ามาทีเดียว อาศัยน้ำหล่อลื่นที่เหลือทิ้งไว้ตั้งแต่ต้นพามันเข้าไปจนมิดด้าม ทำให้คนได้รับกระชากแขนเต็มแรง สะโพกสั่นไปหมด ฟันคมกัดลงบนปากล่างเต็มแรงจนได้เลือด

          “งั้นมึงก็ต้องรับผิดชอบคำพูดของมึง!!!

            เจ้านายเขาตวาดใส่จากเหนือหัว อย่างที่ก้อนหินรู้ได้ว่าอีกฝ่ายอารมณ์ไม่ปกติ น้ำเสียงที่แม้จะโหดร้ายเต็มเปี่ยมไปด้วยความสับสน

            คุณตุลย์ไม่ได้อยากทำร้ายเขา พอๆ กับไม่ได้อยากทำร้ายคุณท่าน แต่สถานการณ์ทุกอย่างมันบังคับให้ทำ และถ้าเจ้านายจะอาการดีขึ้นด้วยร่างกายนี้....เขายินยอม

            “มึงได้ยินมั้ยไอ้หิน มึงต้องรับผิดชอบคำพูดของมึง อย่าตายหนีกูไปเหมือนไอ้เหี้ยนั่น!!!

            เจ้านายเสียใจกับการตายของคนเป็นย่ามากกว่าใคร

            คนเพียงคนเดียวที่เป็นจุดมุ่งหมายในการใช้ชีวิต

            ดังนั้น ปฐพีจึงว่าเสียงเบา

            “ผม...จะรับผิดชอบ...อึ้ก...คำพูด...ของผม...ครับ”

            ในโลกนี้ต้องมีใครสักคนที่สามารถรองรับความรู้สึกมากมายของคุณตุลย์เอาไว้ให้ได้ เขาเอง เขายอมเป็นคนนั้นตั้งแต่เห็นเจ้านายปางตายกลับมาจากโจรลักพาตัว หากโลกนี้ไม่มีใครเข้าใจผู้ชายคนนี้ ไอ้ก้อนหินจะขอเข้าใจเอง จะขอเป็นแรงผลักดันให้คนคนนี้มีชีวิตต่อไป

            เจ็บแค่นี้...เขาทนได้

            “ดี! มึงพูดแล้วนะ ดี!!!

            สวบๆๆๆ

            “อึ้ก!!!” คนได้รับกัดปากเต็มแรง เมื่อแรงขับเคลื่อนกำลังขยับเข้ามาในช่องทางคับแคบของเขา ดุนดันจนสุด ดึงออก แล้วกดย้ำเข้ามาซ้ำๆ ไม่มีการผ่อนแรง มีเพียงความรุนแรงที่สอดลึกเข้ามา ขณะที่สองขาถูกดันขึ้นสูงเท่าที่เชือกที่รัดข้อเท้าจะอำนวย ตามมาด้วยริมฝีปากที่บดขยี้ลงบนปากของเขา จนได้กลิ่นคาวเลือด

            ไม่ใช่แค่เลือดของตัวเอง แต่หมายรวมถึงเลือดของคุณตุลย์

            คนที่ขยี้ปากเขาจนแตกไม่ต่างกัน ขณะที่สะโพกสอบก็โจนจ้วงเข้ามารัวแรง มืออีกข้างบีบปลายคางของคนสนิทเอาไว้แน่น

            “ร้องสิไอ้หิน ร้องสิ!!!

            “คุณตุลย์ ได้โปรด....คุณตุลย์...ครับ...คุณตุลย์!

            เสียงร้องแหบพร่าดังเพียงชื่อของเจ้านาย ยามที่ขยับสะโพกรับความรุนแรงที่เข้ามาไม่มีหยุด อย่างรู้ดีว่าควรทำยังไงให้เจ้านายพอใจ แม้ว่าตัวเองจะทรมานกับห่วงรัดโคนแทบตายก็ตาม

            ตอนนี้ก้อนหินทำได้เพียงดันกายขึ้นไป ใช้ท่อนเนื้อร้อนผ่าวถูไถกับแผ่นท้องแกร่ง ขยับเสียดสีเพื่อลดความทรมานของตัวเอง แต่ไม่เลย...เขาอยากปลดปล่อย อยากจะถึง แต่รู้ดีว่ามันยังไม่ใช่เวลา เจ้านายยังไม่ยอมปลดปล่อยเขาให้ได้รับอิสรภาพเร็วๆ นี้

            “ฮ้า...แฮก...แฮก...มึงห้ามตายหนีกูไป ได้ยินมั้ย...มึงห้าม!!!

            คนข้างใต้รู้สึกถึงความอบอุ่นที่โน้มเข้ามาหา สองมือที่บีบปลายคางของเขาเอาไว้จนเจ็บ และหากก้อนหินไม่ได้คิดไปเอง...น้ำตา

            น้ำตาร้อนผ่าวกำลังไหลกระทบแก้มของเขา ราวกับคุณตุลย์เองก็กำลังแสดงความอ่อนแอ

            คนที่ขยับสะโพกไม่หยุด หากแต่กระซิบเพียงว่า....

          “กูไม่อนุญาตให้มึงตาย มึงห้ามตาย มึงต้องอยู่กับกู...ต้องอยู่กับกู!!!!

......................................
กลับไปอ่านต่อได้ที่

ขอบคุณค่ะ

5 ความคิดเห็น:

  1. อธิบายความรู้สึกไม่ออกเหมือนกัน ....

    ตอบลบ
  2. จะตายเพราะมึงหรือเปล่า...

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อ่านมาเศร้าๆ เจอคอมเม้นนี้ลั่นเลย55

      ลบ
  3. ความรู้สึกอยากไปพบแพทย์มากตอนนี้

    ตอบลบ